อดีตมิสไทยแลนด์เวิล์ด แถลง ถูกแบรนด์อาหารเสริมเอาหน้า พร้อม ชื่อรพ.นวมินทร์ 9 ไปแอบอ้าง หวั่นประชาชนเข้าใจผิด กระทบชื่อเสียงรพ.
ดร.พิมพ์ขวัญ บุญจิตต์พิมล อดีต Mrs.Thailand World 2022 พร้อมสามี เดินทางมาปรึกษานายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา พร้อมแถลงข่าวหลังถูกอาหารเสริมยี่ห้อดัง (แบรนด์ JESSIE M) นำภาพของตน และ ชื่อ รพ.นวมินทร์ 9 ไปใช้จนเกิดทำให้ประชาชนเข้าใจผิด
ดร.พิมพ์ขวัญ เปิดเผยว่า ต้นเคยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับผลิตภัณฑ์น้ำนมแม่ของแบรนด์ดังกล่าว โดยเป็นการเซ็นสัญญาระยะเวลา 1 ปีตั้งแต่ 3 มกราคม 2566 ถึง 3 มกราคม 2567 โดยในสัญญาระบุเพียงแค่ว่าจะใช้ตนเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 แต่กลับพบว่าแบรนด์ดังกล่าวได้นำชื่อของโรงพยาบาลไปแอบอ้างด้วย
ทั้งนี้ที่ผ่านมาระหว่างตนเองกับผลิตภัณฑ์แบรนด์ดังกล่าวได้มีการยกเลิกสัญญากันไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยทางเจ้าของแบรนด์อ้างว่าตนเป็นปฏิปักษ์กับแบรนด์จึงทำการยกเลิกสัญญา เนื่องจากตนเองได้ติดตามทวงถามเงินค่าจ้างแบรนด์แอมบาสเดอร์อีกจำนวน 900,000 บาทที่ยังค้างไว้
ซึ่งตั้งแต่ที่มีการยกเลิกสัญญา ก็ยังคงพบว่าทางแบรนด์ยังคงใช้ภาพใบหน้าของตนเองโปรโมทบนกล่องผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังพบว่าใช้ชื่อของโรงพยาบาลไปแอบอ้างอีกด้วย ทำให้ที่ผ่านมามีประชาชนมาร้องเรียนที่โรงพยาบาลและร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆว่าใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้วไม่เห็นผลมีอาการเวียนหัวอาเจียนและรู้สึกแพ้ นอกจากนี้ยังพบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการขายสินค้าให้กับตัวแทนนำไปสต๊อกไว้โดยมีการการันตีถึงรายได้ที่จะได้ตามมา ตนจึงกลัวว่าอาจจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
วันนี้จึงต้องออกมาชี้แจงว่าตนเองไม่เคยเป็นเจ้าของแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ไม่เคยการันตีถึงรายได้ที่จะได้รับจากการนำสินค้าไปขาย และทางโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ไม่มีความเกี่ยวข้องกับแบรนด์
นอกจากนี้ยังพบว่าแบรนด์ดังกล่าวมีการโฆษณาเกินจริง ผลิตภัณฑ์มีอย.อยู่ในหมวดอาหารเสริม แต่สินค้ากลับระบุว่าเป็นสมุนไพร จึงอยากให้ทางองค์การอาหารและยาเข้ามาตรวจสอบเนื่องจากเป็นห่วงกลุ่มลูกค้าที่ซื้อไปใช้เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นกลุ่มอาหารของแม่และเด็กจึงอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ได้
ด้านทนายเดชา ระบุว่า จากนี้จะต้องไปรวบรวมพยานหลักฐานหากสิ่งที่แบรนด์ดังกล่าวทำให้ทางดรพิมพ์ขวัญเสื่อมเสียชื่อเสียง หรือมีผลกระทบจนทำให้ถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากการนำใบหน้าและชื่อของโรงพยาบาลไปแอบอ้างใช้ ก็จะต้องใช้สิทธิ์ทางกฎหมายต่อไป รวมถึงยังอยากให้ทางองค์การอาหารและยาเข้าไปตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ถูกต้องหรือมีการโฆษณาเกินจริงหรือไม่