รวบรถพ่วงแบกน้ำหนัก 2 คัน ใช้เส้นทางรองเลี่ยงด่านขั่งและตำรวจอาศัยเวลาเช้าตรู่ในการหลบเลี่ยง
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบรถพ่วงบรรทุกหนัก 2 คัน ในคราวเดียว คนขับรับใช้เส้นทางรองเลี่ยงด่านชั่ง ลักลอบแบกดินน้ำหนักเกินกฎหมายกันช่วงเช้าตรู่
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.บก.ทล., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ช่วยราชการ บก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์, พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง.ผกก.2 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.(นครปฐม) นำโดย พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์
สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.ศรัณยพงศ์ อ่อนสิงห์, ร.ต.ต.ภาณุพงษ์ ทองนพ, ร.ต.ต.ธีระวัฒน์
ชาวนาห้วยตะโก รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., ด.ต.อนันต์ ศรีวิเชียร, ด.ต.ณัฐสิทธิ์ สายวา และ
ด.ต.ศรีธาตุ พงษ์ไทสง ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
ทำการจับกุม นายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี และ นายพุทธา (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ซึ่งเป็น ผู้ขับขี่รถบรรทุกส่วนบุคคล 22 ล้อ จำนวน 2 คัน ลักลอบบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (โดยน้ำหนักตามที่กฎหมายกำหนดให้ไม่เกิน 50,500 กิโลกรัม)
รายละเอียด ดังนี้
– รถคันแรกที่นายสมชายฯเป็นผู้ขับขี่ มีน้ำหนักรวม 60,800 กิโลกรัม (เกินกว่าที่กำหนด 10,300 กิโลกรัม
– รถคันที่สองที่นายพุทธาฯเป็นผู้ขับขี่ มีน้ำหนักรวม 59,950 กิโลกรัม (เกินกว่าที่กำกนด 9,450 กิโลกรัม)
พร้อมตรวจยึดของกลาง รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว จำนวน 2 คัน ที่บรรทุกดินที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
พฤติการณ์การจับกุม ตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ที่ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงออกกวดขันปราบปรามรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดบนทางหลวงแผ่นดินอย่างจริงจัง
จนเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 05.30 น. ขณะที่ เจ้าหน้าตำรวจทางหลวงนครปฐม
(ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.) ได้ออกตรวจจนมาถึงบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ทางหลวงชนบทหมายเลข 3233 กิโลเมตรที่ 16 ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม (ซึ่งเป็นถนนสายรองที่ตัดผ่านพื้นที่ชุมชน) ได้พบรถบรรทุกพ่วงส่วนบุคคล 22 ล้อ จำนวน 2 คัน วิ่งมาบนถนนลักษณะมีการบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักจำนวนมาก และใช้ความเร็วค่อนข้างสูง เจ้าหน้าที่จึงขับรถวิทยุตำรวจทางหลวงประกบหน้าหลังรถบรรทุกพ่วงทั้ง 2 คัน และเรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ