รอง ผบ.ตร.ตรวจสอบที่เกิดโรงงานพลุระเบิดพร้อมเจ้าหน้าที่ EOD แต่ประเมินสถานการณ์พบว่ายังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ระบุว่า เมือคืนได้เดินทางเข้าไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว 1 รอบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชุด EOD แต่จากการวิเคราะห๋สถานการณ์พบว่ายังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้ทำการเคลื่อนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุ และแช่ไว้ในรถแช่เย็น เช้าวันนี้ก็ได้เคลื่อนย้ายมายังวัดโรงช้าง แล้วเสร็จ 11:00 น.
สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนคือพิสูจน์อัตลักษณ์ว่าเป็นศพใคร ซึ่งขณะนี้ได้ศพครบหมดแล้วทั้ง 23 ราย มีซองเก็บศพ 25 ซอง อีก 2 ซองเป็นซองที่เก็บชิ้นส่วนเพื่อนำมาพิสูจน์ว่าเป็นของใคร ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิสูจน์จากแพทย์โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ร่วมกับ แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ พิสูจน์อัตลักษณ์แล้วเสร็จ 10 รายเหลืออีก 13 ราย กำลังดำเนินการ โดยมีคำสั่งให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน ส่วนการตรวจสอบ DNA ของญาติ ขณะนี้ตรวจครบหมดแล้ว รอเพียงการพิสูจน์อัตลักษณ์และส่งร่างคืนเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
โดยการสังเกตมี 4 วิธี คือ
1.รอยสัก-เสื้อผ้า-สร้อย-แก้วแหวนเงินทอง และมีการยืนยันจากญาติ
2. ดูจากลายนิ้วมือ
3. ดูจากฟัน
4. จากการตรวจ DNA ตรงกันกับญาติ เพื่อป้องกันการส่งร่างผิด / จากการตรวจลายนิ้วมือ สามารถยืนยันได้ 5 ราย อีก 18 รายกำลังเร่งรัด
ขณะนี้มีการสอบพยานเกือบทั้งหมดแล้ว ทั้งพยานบุคคลและพยานแวดล้อม จากนี้จะต้องรอผลการตรวจจากนิติเวช ว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร และจะมีการดำเนินการตาม ป.วิอาญา ว่าการอนุญาติถูกต้องหรือไม่ มีการเก็บรักษา และการผลิตเป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่ เบื้องต้นต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนดำเนินการไประยะนึงก่อน ในการตรวจสอบพื้นที่และการทำงานส่วนอื่น