รวบท้าวแชร์ “บ้านแม่ต้อย” เชิดเงินผู้เสียหายล้านกว่าบาท เจ้าตัวอ้างแชร์ล้ม 10 วง
เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนกองบังคับการปราบปรามเข้าจับกุม น.ส.วิภา หรือ แม่ต๋อยท้าวแชร์หลังผู้เสียหายได้แจ้งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนทราบว่า น.ส.วิภา ประกอบอาชีพเป็นแคดดี้ของสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ในพื่นที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.วิภา ได้ทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งร่วมกับผู้เสียหายในคดี และเป็นที่รู้จักกับกลุ่มผู้เสียหายเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นที่ไว้วางใจของพนักงานบริษัทด้วยกัน ต่อมาน.ส.วิภาฯ ได้ผันตัวเป็นท้าวแชร์ ได้เปิดกลุ่มไลน์ ชักชวนผู้เสียหายที่เป็นเพื่อนร่วมงาน หรือบุคคลรู้จักกันมานาน และไว้ใจกัน ให้ร่วมลงทุนเล่นวงแชร์กับตนโดยเริ่มต้นจากการเป็นท้าวเล่นแชร์ แบบรายเดือน จนกระทั่งไม่สามารถหาเงินมาหมุนได้ทันจึงใช้วิธีแบ่งการเล่นแชร์ออกเป็นวงแชร์ แบบรายสัปดาห์ และรายเดือนโดยผู้ต้องหาจะเป็นคนทำหน้าที่ จัดการและรวมเงินวงแชร์ โดยมีการเปิดวงแชร์รวมกันกว่า 10 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มมีสมาชิกวงแชร์มากกว่า30 คน ยอดแชร์กว่าวงละ 100,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท
ต่อมาน.ส.วิภา ไม่สามารถหมุนเงินมาจ่ายให้สมาชิกได้ทัน และได้ผ่อนผันเรื่อยมา ซึ่งกลุ่มของผู้เสียหายได้ทวงถามมาตลอดแล้ว แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จึงทราบว่า การเปิดแชร์ของผู้ต้องห มีการนำหน้าม้า เข้ามาร่วมเล่นวงแชร์ที่ผู้เสียหายเล่น และเมื่อถึงเวลาเปียแชร์ ผู้ต้องหาจะอ้างชื่อที่นำมาแอบแฝงในวงแชร์นั้น สามารถเปียแชร์ได้ และให้ดอกในราคาที่สูง เมื่อผู้เสียหายทวงถามถึงเงินในวงแชร์ ผู้ต้องหาก็จะบ่ายเบี่ยงอ้างว่า ไม่สามารถเก็บเงินตามรายชื่อที่เปียแชร์ไปได้ และหลบหนีหายไป ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้มีผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนจากวงแชร์ดังกล่าวจำนวนหลายราย จึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายพื้นที่
โดยช่วงบ่ายของวันที่ 1 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้พบ น.ส.วิภา ยืนอยู่บริเวณริมถนน ซอยรังสิต-นครนายก 31 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จว.ปทุมธานี จึงเข้าทำการจับกุมโดยทันที สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมตัวมาดำเนินคดีแต่อย่างใดผู้ต้องยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
